5 เทรนด์ท่องเที่ยวปี 2025 “Conscious Travel”

การท่องเที่ยวในปี 2025 จะถูกขับเคลื่อนด้วยแนวคิด Conscious Travel หรือการเดินทางอย่างมีจิตสำนึก ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวที่ใส่ใจทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และวัฒนธรรมท้องถิ่น

เทรนด์นี้สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมนักเดินทางที่เปลี่ยนไป โดยให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและผลกระทบของการท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งโรงแรมจะไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่พักผ่อน เป็นเพียงแค่ที่นอนอีกต่อไป เพราะหลังจากนี้ นักท่องเที่ยวจะมองหาประสบการณ์ด้านวัฒนธรรม ด้านประเพณีท้องถิ่น ด้านความสัมพันธ์กับชุมชนที่ไปพักมากขึ้น

โดยเทรนด์การท่องเที่ยวแบบ Conscious สามารถแบ่งได้เป็น 5 ประเภทดังนี้

1. การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และยั่งยืน (Sustainable Tourism)

• นักท่องเที่ยวมองหาสถานที่ที่ให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น รีสอร์ทที่มีการจัดการด้านการใช้พลังงานหรือการลดใช้พลาสติก
• การเดินทางโดยลดคาร์บอนฟุตพรินต์ เช่น การใช้ขนส่งสาธารณะหรือเลือกเที่ยวในสถานที่ใกล้บ้าน 

2. การท่องเที่ยวในชุมชนท้องถิ่น (Community-Based Tourism)

• สนับสนุนธุรกิจท้องถิ่น เช่น ที่พักแบบโฮมสเตย์ ร้านอาหารพื้นเมือง และสินค้าจากชุมชน
• การเข้าร่วมกิจกรรมเชิงวัฒนธรรม เช่น การเรียนทำอาหารพื้นเมืองหรือการเข้าร่วมประเพณีท้องถิ่น

3. การเดินทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism)

• ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เช่น รีทรีตโยคะ สปาเพื่อฟื้นฟูร่างกาย และการเดินป่าธรรมชาติ
• เทรนด์ "Digital Detox" หรือการหลีกหนีจากเทคโนโลยีเพื่อพักผ่อนสมอง

4. การเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-Friendly Travel)

• นักเดินทางให้ความสำคัญกับที่พักและกิจกรรมที่มีมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม
• การลดขยะจากการเดินทาง เช่น การพกขวดน้ำใช้ซ้ำและใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

5. การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ (Experiential Travel)

• นักเดินทางให้ความสำคัญกับประสบการณ์มากกว่าวัตถุ เช่น การเดินทางไปสัมผัสวัฒนธรรมของชุมชนพื้นถิ่น
• การเลือกทริปแบบ "Slow Travel" หรือการเดินทางอย่างช้า ๆ เพื่อซึมซับบรรยากาศและวิถีชีวิตของชุมชน

ผลสำรวจจาก Changing traveller report โดย SiteMinder เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ที่ผ่านมา ระบุว่า เทรนด์การท่องเที่ยว Conscious Travel กำลังเติบโตอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวไทย ซึ่งกว่า 65% มีแนวโน้มใช้เวลามากขึ้นในโรงแรมในปี 2025 ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.5% จากปีก่อน โดยมีกลุ่ม Millennials และ Gen Z เป็นกลุ่มที่ขับเคลื่อนเทรนด์นี้ โดยมองว่าการได้สัมผัสประสบการณ์เหล่านี้มีคุณค่า ไม่แพ้การได้รับความสะดวกสบายจากที่พัก 

นอกจากนี้ 2 กลุ่มนี้ยังให้ความสำคัญกับการเลือกที่พักเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสูงถึง 94% และยินดีจะจ่ายเงินที่มากขึ้น

ในด้านการเลือกที่พัก 36% ยังเลือกค้นหาที่พักผ่านเครื่องมือ Search engine อีก 18% เลือกค้นหาที่พักผ่านแพลตฟอร์ม OTAs และ 11% จาก Social media

ในขณะที่คำแนะนำจากเพื่อน/ครอบครัว ลดลงมาเหลือ 7% และจาก AI assistant ประมาณ 1% และอื่น ๆ 16%

ส่วนการเลือกประเภทห้องพักที่ถูกเลือกจองสูงสุดยังคงเป็นแบบ Standard Room ซึ่งนักท่องเที่ยวมองว่าเป็นสิ่งที่ประหยัดได้และไปใช้จ่ายเพิ่มเติมกับบริการเสริมอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น เซ็ตอาหารค่ำ พร้อนไวน์ชั้นดี หรือบริการสปา

นอกจากนั้นเทรนด์การท่องเที่ยวตามอีเว้นต์ เช่น ท่องเที่ยวพักผ่อน พร้อมงานชมคอนเสิร์ต หรือ งานวิ่ง งานแฟร์ ต่าง ๆ และการท่องเที่ยวกับสัตว์เลี้ยง ก็ยังคงมีตัวเลขสูงต่อเนื่องจากปี 2024

บทสรุป

เทรนด์ท่องเที่ยวในปี 2025 กำลังมุ่งไปสู่การเดินทางที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และชุมชนมากขึ้น นักท่องเที่ยวจะเลือกประสบการณ์ที่คุ้มค่าและยั่งยืน ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อโลกของเราด้วย หากคุณต้องการเดินทางอย่างมีจิตสำนึก ปี 2025 จะเป็นปีที่เต็มไปด้วยโอกาสในการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกให้กับโลกใบนี้

ส่วนทางฝั่งผู้ประกอบการเองโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงแรมขนาดเล็กก็ต้องปรับตัว ตามความต้องการของนักท่องเที่ยว ซึ่งรูมสโคปเองไม่อยากจะบอกว่าต้องเปลี่ยนตามเทรนด์ แต่แท้จริงแล้วเป็นสิ่งที่จะต้องเปลี่ยนเพื่อร่วมด้วยช่วยกันของทุกภาคส่วน

สุดท้ายนี้ ฝากเป็นกำลังใจ กดไลค์ กดติดตามเรา ได้ทางเพจ RoomScope ระบบโรงแรม หรือ แนะนำ/ติชม ได้ทาง contact@roomscope.com แล้วพบกับบทความดี ๆ มีประโยชน์ได้ใหม่ ในโอกาสต่อไป ขอให้มีความสุขในช่วงสงกรานต์ เดินทางปลอดภัยทุกเส้นทาง ครับ