02-538-9089 (จ.-ส. 9-18 น.)

✨อัปเดตล่าสุด ครบทุกประเภท | สไตล์ ธุรกิจที่พัก🏡

1 ก.ค. 24

ประเภท หรือสไตล์โรงแรมแต่ละแบบ Hotel-Resort-Hostel-Service Apartment-B&B-Motel-Homestay-Boutique Hotel-Poshtel-Airport Hotel

🏡 ปัจจุบันประเภทของธุรกิจโรงแรมที่พัก มีมากมายหลายรูปแบบ หลายสไตล์ และแต่ละสไตล์ก็แตกต่างกันออกไป วันนี้รูมสโคปจะมาขยายความหมาย ชื่อประเภทโรงแรม โดยแบ่งให้เห็นเป็นหมวดหมู่ง่าย ๆ
แบบไหนบ่งบอกวัตถุประสงค์ในการเข้าพักอย่างไร แบบไหนเหมาะกับใคร บทความนี้ทางรูมสโคปขอถือโอกาสแชร์ข้อมูลที่ได้รับใช้ผู้ประกอบการ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ

ประเภทธุรกิจโรงแรมที่พัก แบ่งเป็น 3 หมวดหมู่ หลัก ๆ ดังนี้

หมวดโรงแรมที่พัก (Hotel Properties)

Hotel

ที่พักที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว โรงแรม คือ สถานที่บริการห้องพัก รวมถึงอาหารเช้า มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน มักจะเป็นตึกสูงมีหลายชั้น ทำเลที่ตั้งอยู่ในเมือง  จุดประสงค์เพื่อการพักค้างคืน เน้นการพักผ่อน และใช้สอยสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีภายในโรงแรม รวมถึงการให้บริการอย่างมีมาตรฐาน เป็นประเภทที่พักที่พบได้มากสุด

Motel

ที่พักตั้งอยู่ริมทาง เจาะจงกลุ่มลูกค้าเฉพาะที่เดินทางท่องเที่ยวโดยมอเตอร์ไซต์ ปกติแล้วรูปแบบที่พักจะสร้างเป็นแถว 1-2 ชั้น จุดจอดรถจะมีให้บริเวณหน้าห้องพัก เป็นล็อค ๆ

Hostel

คือ ที่พักราคาประหยัดที่มีเพียงสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานทั่วไป เช่น ที่นอน ตู้ล็อคเกอร์ ห้องอาบน้ำ(ใช้รวม) เป็นต้น โฮสเทลมักมีลักษณะคล้ายหอพักนักศึกษา (dormitory)  ส่วนมากจะเป็นห้องรวม หรืออาจจะแบ่งแยกเป็นห้องรวมหญิง และ ห้องรวมชาย แต่บางที่ก็มีเป็นห้องเดี่ยวแบบส่วนตัวด้วย 

กลุ่มเป้าหมายผู้เข้าพัก มักจะเป็นนักท่องเที่ยวแบบ Backpacker หรือนักท่องเที่ยวที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเข้าพัก

Poshtel

พอชเทล ที่อ่านชื่อแล้วดูจะคล้ายๆ กับโฮสเทล คือ รูปแบบของที่พักที่มีระดับที่เหนือกว่า Hostel แต่ไม่เท่ากับ Hotel โดยราคาที่พักแพงกว่า Hostel เพราะ Poshtel เป็นการผสมผสานระหว่างคำว่า "Posh" ซึ่งแปลว่าเก๋ไก๋ หรูหรา กับคำว่า "Hostel" ดังนั้น Poshtel คือโฮสเทลเวอร์ชั่นหรูหราที่มีความชิค มีสิ่งอำนวยความสะดวก และเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้พักมากขึ้น แต่ยังคงรูปแบบการสร้างปฏิสัมพันธ์ของนักเดินทาง คือ มีพื้นที่ส่วนกลางให้กับผู้พักได้ใช้ร่วมกันเหมือน Hostel แต่มีระดับกว่า

Resort

ที่พักประเภทรีสอร์ท มักจะตั้งอยู่ในนอกเมือง หรือต่างจังหวัด มีพื้นที่อาณาเขตกว้าง อยู่ใกล้ชิดหรืออยู่ท่ามกลางธรรมชาติ  เช่น ริมทะเล ริมน้ำ บนเขา เน้นไปในทางพักผ่อน และทำกิจกรรม Outdoor มีบริการอื่นรวมอยู่ด้วย เช่น สระว่ายน้ำ สปา สถานที่สำหรับกิจกรรมกีฬา หรืออื่นๆ ซึ่งลูกค้าผู้เข้าพัก มักจะมาใช้บริการกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือหยุดยาว

Boutique Hotel

โรงแรมบูติค คือ รูปแบบของโรงแรมที่มีลักษณะเฉพาะตัว มีขนาดเล็กกว่าโรงแรม  ห้องพักอาจมีขนาดไม่ใหญ่ แต่มีการออกแบบตกแต่งที่โดดเด่น สวยงาม และมีความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละที่ โดยมักมีสถาปัตยกรรมและการตกแต่งที่เน้นความทันสมัย และมีความสะดวกสบายในการเข้าพัก การบริการในโรงแรมบูติคมักเน้นความเป็นกันเอง และมีความใส่ใจในรายละเอียด ทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกคุ้นเคยและสบายใจในการที่จะเข้าพัก

Service Apartment / Residential

คือ ที่พักอาศัยที่มีลักษณะคล้ายกับคอนโดมิเนียมผสมกับโรงแรม มักจะเป็นตึกสูงหลายชั้น จำนวนยูนิตห้อง มีลิฟต์โดยสาร และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีลักษณะคล้ายคอนโด  ภายในห้องพัก มักจะมีครัว ห้องนั่งเล่น บางแห่งมีเครื่องซักผ้าด้วย แต่มีจุดประสงค์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่พักอาศัยชั่วคราวคล้ายกับโรงแรม ภายในจะมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกไว้มากมาย ตั้งแต่เครื่องครัวไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์จำเป็น ส่วนใหญ่จะให้เช่าเป็นลักษณะรายเดือน โดยมีเซอร์วิสให้บริการตลอดที่อยู่อาศัย เช่นบริการทำความสะอาด บริการ ซักรีด

Mountain hut (Lodge)

ปกติจะเป็นที่พักที่ตั้งอยู่นอกเมือง ใกล้ภูเขา, ป่าอุทยาน,เขื่อน, ทะเลสาป, แม่น้ำ มีเจ้าของ หรือแผนกต้อนรับ ลักษณะที่พักเป็นบ้านหลังเดี่ยว หรือกระท่อม มีกิจกรรมใกล้ชิดกับธรรมชาติ เช่นปีนเขา, ตกปลา, คายัค, แคนนู ฯลฯ

Camping Cabin

ที่พักสร้างด้วยไม้ หรือแบบกระท่อม มีพื้นที่ใช้สอบส่วนกลางที่ใช้ร่วมกัน เช่นห้องครัว ห้องน้ำ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ สภาพแวดล้อมในที่พัก หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในที่พักบางประเภท อาศัยพลังงานจากธรรมชาติ มีทางเลือกให้ลูกค้าสามารถนำเต็นท์มากางเองได้ รวมถึงพักในยานพาหนะดัดแปลงของตนเองแบบต่าง ๆ

หมวดที่พักชั่วคราว – Long stay เน้นบริการตัวเอง (Vacation rental)

Love Hotel

ภาษาบ้านเราก็เทียบได้กับโรงแรมแนวม่านรูด เหมาะเฉพาะสำหรับผู้ใหญ่ คู่รัก โดยเปิดให้บริการทั้งแบบชั่วคราว และค้างคืน ภายในห้องพักมีความเป็นส่วนตัว ตกแต่งแนวโรแมนซ์

Inn

เป็นรูปแบบที่พักที่รองรับอยู่ใกล้ หรืออยู่ในผับ, บาร์, โรงเบียร์, คาเฟ่, ร้านอาหาร มีห้องพัก จำนวนไม่เกิน 20 ห้อง

Aparthotel

ที่พักระยะยาว ไม่เน้นเรื่องการบริการ มีอุปกรณ์ใช้สอย และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบครัน มีการจัดการอาหารการกินด้วยตนเอง มีห้องน้ำส่วนตัว มีแผนกต้อนรับบริการเป็นบางช่วงเวลา

Airport Hotels

โรงแรมท่าอากาศยาน หรือโรงแรมสนามบิน (Airport Hotel) คือ โรงแรมที่ตั้งอยู่ใกล้สนามบิน มีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้เดินทางโดยเครื่องบิน สามารถหาที่พักผ่อนระหว่างการเดินทางได้สะดวก มักจะมีแบบ Day use หรือการเข้าพักแบบครึ่งวัน ในบางแห่งโรงแรมท่าอากาศยานยังมีสถานที่สำหรับการประชุม และบริการอื่น ๆ ด้วย

Bed and Breakfast

เป็นรูปแบบที่มีมานานมาก ๆ แล้วในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันในประเทศไทยก็มีที่พักประเภท Bed and Breakfast (B&B, BNB) อยู่บ้าง ที่พักประเภทนี้จริงๆ แล้ว คือ บริการที่พัก และอาหารเช้า แบบเรียบง่าย ไม่มีบริการอื่นๆ อะไรเพิ่มเติม เป็นรูปแบบที่เจ้าของบ้าน นำบ้านมาแบ่งให้แขกเข้าพัก คล้ายกับแบบโฮมสเตย์ ต่างกันที่ Bed and Breakfast  ไม่ได้เน้นที่พักอิงชุมชุมแบบโฮมสเตย์  สวนมาก Bed and Breakfast  มักจะอยู่ในตัวเมืองมากกว่า

Homestay

โฮมสเตย์ คือ รูปแบบที่พักขนาดเล็กตามชนบท มักจะอยู่ในชุมชน และแต่เดิมคือที่อยู่อาศัยของเจ้าของบ้าน แล้วนำมาปรับเปลี่ยนให้เป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสใช้ชีวิตความเป็นอยู่ร่วมกับคนในท้องถิ่น อยู่บ้านเดียวกัน ทานอาหารร่วมกัน ใช้ชีวิต หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน โดยนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสวิถีชีวิต และวัฒนธรรม รวมถึงโอกาสท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่น และทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงศึกษาประเพณี และวัฒนธรรมท้องถิ่นด้วย

Farm stay

ที่พักค้างคืนที่ให้บริการในฟาร์ม อาจจะเป็นฟาร์มผัก ฟาร์มที่มีสัตว์เลี้ยง รวมถึงไร่องุ่น (Vineyard) และต้องมีเจ้าของฟาร์มคอยดูแลต้อนรับ มีพนักงานภายในฟาร์ม หรือภายในไร่ ทำงานเป็นประจำ

Capsule hotel (Pod hotel)

ที่พักลักษณะกะทัดรัด เป็นแถวซ้อนกัน มีอุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกให้ใช้ร่วมกัน ยุคสมัยใหม่อาจมีแบบที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น หรูหรามากขึ้น แต่ก็ตามมาด้วยราคาที่สูงขึ้น

Bungalow

ที่พักหลังเดี่ยว มีระเบียงล้อม และหลังคาแบบลาด ถูกสร้างขึ้นหลังแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา ช่วงปี ค.ศ. 1869 และเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายทั้งในอเมริกา อังกฤษ รวมถึงประเทศอื่น ๆ ในช่วงปี ค.ศ. 1900 - 1918

Cabin

ที่พักสร้างด้วยไม้แบบต่าง ๆ ขนาดเล็ก ในบ้านเราอาจเรียกกันว่า กระท่อม ตั้งอยู่ในป่า หรือเขา ที่อยู่ลึก ใช้สำหรับพักอาศัยระหว่างทำงาน หรือออกหาของป่า

Chalet

ที่พักสร้างด้วยไม้ มีระเบียง และหลังคาแบบลาด ส่วนมากจะสร้างในพื้นที่ชุมชน ที่อยู่ติดทะเล, เขื่อน หรือแม่น้ำขนาดใหญ่

Cottage

จริง ๆ แล้วคำนี้มีความหมายแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ แต่ก็สามารถแปลหมายหมายรวมได้ว่าเป็นที่พักสไตล์อบอุ่น ตั้งอยู่ในเขตนอกเมืองที่ไม่มีความแออัด เช่น ชายหาด แนวเขื่อน

Villa

ที่พักมีระดับ ในพื้นที่ส่วนตัว มีรั้วรอบขอบชิด มีพื้นที่ใช้สอยสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งภายใน และภายนอก มีสระว่ายน้ำ รวมถึงสวนหย่อม

ที่พักกลางแจ้ง (Outdoor lodging)

Campground

ที่พักแนวเต็นท์พื้นฐาน สไตล์การพักแบบเพื่อนฝูง พี่น้องแนวสังสรรค์ มีพื้นที่ส่วนกลางใช้สำหรับทำกิจกรรม เช่น วางเตา วางกระทะ สำหรับทำอาหาร ห้องน้ำ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นเป็นแบบใช้ร่วมกัน

Glamorous Camping (Gramping)

เป็นรูปแบบที่พักที่เพิ่งเกิดขึ้นมาในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เป็นที่พักแบบเดียวกับ Campground แต่ต่างกันที่สภาพแวดล้อม บรรยากาศ และสิ่งอำนวยความสะดวก ที่จะมีความหรูหรา สะดวกสบาย ปลอดภัย ทันสมัยมากกว่า

Recreation vehicle

สถานที่พักค้างคืนสำหรับ รถบ้าน

Houseboat

ที่พักประเภทเรือใบไปจนถึงเรือยอร์ชสุดหรู ในลักษณะที่เรือจะจอดนิ่งอยู่ที่ท่า(ไม่เคลื่อนที่)ขณะลูกค้าเข้าพัก ซึ่งจะคนละแบบกับครูซ (Cruise)

+++++++++

และนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่รูมสโคปรวบรวมข้อมูลประเภทของโรงแรมที่พักจากประสบการณ์การทำธุรกิจ รวมถึงได้มีโอกาสพบเห็นในต่างประเทศมาฝาก อนาคตถ้ามีรูปแบบที่พักใหม่ ๆ น่าสนใจมาเพิ่มเติม จะมาอัปเดตให้เพื่อน ๆ อีก 

สุดท้ายนี้ RoomScope โปรแกรมโรงแรม ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาระบบบริหารโรงแรมขนาดเล็ก และระบบจองห้องพักของคนไทย หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ และผู้ที่หาข้อมูล ฝากเป็นกำลังใจ และติดตามผลงานของรูมสโคป ได้ทาง FACEBOOK หรือแนะนำ/ติชม ได้ที่ contact@roomscope.com ขอให้ทุกคนมีความสุขครับ